วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ก่อนที่มันจะสาย

เวลาของคนเราที่จะอยู๋บนโลกนี้แต่ละคนไม่เท่ากัน,,


เมื่อเรามีชีวิตขึ้นมาแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่ควรที่จะมาคิดว่าเราควรรักกับเค้าไหม
แล้วถ้าเค้าไม่รักเราหล่ะ เราจะทำยังงัย....อยากทำอะร อยากบอกรักใคร
รีบๆๆทำ รีบๆๆบอกเค้าไปดีกว่า ก่อนที่เวลาของตัวคุณเองจะไม่เหลือ



เราจะบอกกับตัวเองทีหลังว่า เสียดายเวลาที่ผ่านมาจัง




เพราะฉะนั้น รักใคร ชอบใคร ก็รีบๆบอกให้เค้ารู้ตัวไว้ดีกว่านะ

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551

รัก/สาม/เศร้า

รัก/สาม/เศร้า บางคนก็อยากดูบางคนก็ไม่อยากดู แต่ละคน แต่ละความชอบ
ไม่มีใครมีความชอบที่เหมือนกันหรอก,,

แต่ในความคิดและ ความรู้สึกของฉัน มันเป็นหนังที่มีทั้งความสุข ความรักแบบเพื่อน
ความรักแบบคนรัก ที่ไม่มีใครผิดหรอกที่จะรักคนที่เค้าไม่ได้รักเรา
มีเยอะแยะไปที่ชอบไปรักคนที่เค้าไม่รักเรา แล้วก็มีคนที่ดีพร้อมสุดๆๆมารักเรา
แต่เราก็ไม่เคยเห็นค่าในตัวเค้าเลย มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
แต่สุดท้าย....มันก้ต้องมีบทสรุปของมันที่บางครั้งอาจจะต้องมีคนที่เสียสละมากที่สุดก็ได้




แล้วบางทีคนที่เสียสละมากที่สุด ก็อาจจะเป็นคุณ หรือ คนที่คุณรักที่สุดก็ได้

"สัญญานะ ว่าถ้าฟ้าอยู่ไม่อยู๋แล้ว ยุจะไม่รักใครอีก นอกจากน้ำ"

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551

บุพการีที่เคารพ

ไม่มีสิ่งใดบนโลกนี้ สามารถเปรียบเทียบความหมายถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่า "บุพการี"
ได้เลย เพราะถ้าไม่มีทานแล้ว พวกเราก็ไม่สามารถที่จะเกิดมาบนโลกนี้ได้เลย ไม่มีโอกาสที่จะได้ทดลอง และเรียนรูอะไรใหม่ๆ ได้รู้สึกถึงคำว่า รัก,สนุก,โกรธ,หลง เพราะฉะนั้นการที่ได้ทำให้พ่อแม่มีความสุข
ดูแลท่าน เชื่อฟังท่าน แค่สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ก็ถือเป็นการตอบแทนพระคุณท่านที่ให้กำเนิดเรามาดูโลกใบนี้ได้แล้ว

คุณลุงตาบอด

ตนเรามักจะไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
มักจะคิดว่าของคนอื่นดีกว่าเสมอ แต่แล้ววันนึงฏมีคุณลุงตาบอดคนนึง
ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดนี้ทั้งหมด เค้าไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย
แต่เค้าก็ยังอยากจะทำงาน ขวนขวายเลี้ยงตัวเองโดยการขายลอตเตอรี่
โดยมีไม้เท้าหนึ่งอันเป็นเพื่อนคู่ใจ เดินตากแดดท่ามกลางความวุ่นวาย และผู้คนมากมาย
เค้าสามารถมีชีวิตที่ไม่สมประกอบ และอยู่บนโลกแห่งความเป็นจิงได้
แต่แล้วทำไมคนที่มีอวัยวะครบอย่างเราๆ มักชอบที่จะไขว่ขว้าบ้างที่เราไม่มี
และไม่ยอมรับในสิ่งที่เป็น พยายามทำตัวให้เหมือนคนอื่น



ถ้าทุกคนบนโลกนี้สามารถคิดได้เหมือนคุณลุงตาบอด
โลกเราวันนี้คงจะมีแต่ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551

The Door ประตู 2 บาน

ประตูมีไว้เพื่อ ปิด - เปิด
ประตูมีไว้เพื่อ เข้า - ออก

บานประตูจึงไม่ต่างอะไรกับจิตใจของเรา
เวลาเราทุกข์ใจ นั่นเป็นเพราะใจเราเปิดรับความทุกข์
แล้วไม่ยอมเปิดใจรับความสุขที่จะผ่านเข้ามา

ประตูจึงทำหน้าที่เปิดรับสิ่งดีและไม่ดี
จิตใจของเราก็ทำหน้าที่เปิดรับความสุขและทุกข์

บางคนใช้ชีวิตแบบประตูที่ปิดตาย
ไม่ยอมปลดปล่อยตัวเองออกจากความทุกข์
ได้แต่ปิดตายและขังความทุกข์ของตัวเองไว้
ไม่ใยดีกับความสุขที่ตัวเองมีสิทธิ์ที่จะได้รับ

บางคนพอเปิดประตูไม่ได้ก็พาลกับตัวเองและผู้อื่น
เอาแต่โกรธผู้อื่น ไม่เคยย้อยมองส่องตน

การมัวแต่เพ่งโทษของคนอื่น
จึงรังแต่จะทำให้เรากักขังตัวเราไว้กับความทุกข์

สิ่งที่เราควรทำคือการศึกษาความผิดพลาดของผู้อื่น
ให้นำข้อผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียนสอนตน
ไม่ประพฤติไปตามนิสัยแย่ ๆ เหล่านั้น

ให้รู้ไว้ว่า......บางครั้งที่เราเปิดประตูไม่ได้
ไม่ใช่เพราะประตูปิดตาย
อ่านดูด้วยว่าประตูบานนั้นเปิดประตูยังไง
ดึง, ผลัก, หรือเลื่อน

มีแต่ใจที่ปิดตายเท่านั้น.......
ที่ไม่สามารถให้อภัยใครได้แม้แต่กับตัวเอง

หลายคนใช้ชีวิตแบบดึง ทั้ง ๆ ที่ประตูบอกให้เลื่อน
ฝืนดึงจนบางทีประตูพัง....

ประตูที่แท้จริงคือประตูที่ไร้ประตู
ชีวิตที่แท้จริงคือชีวิตที่เข้าใจชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2551

happenning

ถ้าโลกโนสารพิษร้ายแรง ทำให้คนตายหมดทั้งโลก รวมทั้งตัวเราเองด้วย
แต่พวกเรายังคงพยายามที่จะหนีเพื่อเอาชีวิตรอดจนถึงสุดท้าย
ยังงัยเราก็ไม่มีทางรอด เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะต้องตาย


ตอนนั้นเราอยู๋กับคนที่เรารักและเค้าก็รักเรา
คุณจะบอกอะไรกับเค้าบ้าง??

ถ้าเป็นฉัน ฉันอยากบอกเค้าว่า
"ขอเราเกิดมาได้อยู๋ด้วยกันแบบนี้อีก"

วิธีดูเกย์....ปั-น-กั-น-อ่า-น

- แต่ตัวดีเกินเหตุ หัวเข็มขัดตั้งในระนาบเดียวกับกระดุมและซิบกางเกง ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 ซม.
- ใช้น้ำหอม
- มีผ้าเช็ดหน้าติดตัว
- ผูกเน็ตไทน์สวยไม่มีที่ติ
- ใช้กางเกงในสีขาว
- แต่งตัวเข้าเทรนตลอด การใช้เสื้อผ้าต้องเข้าชุดกัน และดูเป็นตัวของตัวเอง
- มีเครื่องสำอางติดตัวอย่างน้อย 1 ชิ้น เช่น ลิปมัน กระดาษซับหน้า โลชั่นกันแดด SPF 30
- เค้าจะเลือกทรงผมที่เข้ากับหน้าตาได้ดีที่สุด
- ตาจะกลิ้งกรอก เคลื่อนไหวได้มากกว่าผู้ชายธรรมดา
- พูดจาสุภาพ น่าเชื่อถือ เป็นนักพูดที่เก่ง เป็นนักฟังที่ดี
- มีคำราชาศัพท์หลุดออกมาบ้างเป็นครั้งคราว อย่าง อุ้ย, เก๋ไหมล่ะ, เลิศ
- การหยิบจับของ นิ้วก้อยที่ชี้ขึ้นจะบ่งบอกระดับความเป็นเกย์
- ไว้เล็บนิ้วก้อย
- ใส่แหวนนิ้วกลางข้างซ้าย (แสดงถึงความเข็มแข็งที่อ่อนแอ และต้องการความอบอุ่นจากใครบางคน)
- ชอบกัดเล็บ
- สังเกตดีๆเขากันคิ้วหรือปล่าว
- เก่งภาษาต่างประเทศ
- มีความสามารถในการทำงานที่ใช้ความสร้างสรรค์
- ละเอียดอ่อน และอ่อนไหวง่าย
- ปากร้าย ด่าเจ็บ
- สามารถหาเรื่องขำๆให้คนอื่นหัวเราะได้เรื่อยๆ
- เกลียดเด็ก (รวมถึงสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น แมลงสาบ คนบ้า)
- ไม่ชอบเรื่องเซอร์ไพท์
- อารมย์เปลี่ยนแปลงง่าย
- ชอบทำตัวรังเกียดกระเทย เพื่อปกปิดความเป็นเกย์ในตัว
- ชอบกินอาหารเพื่อสุขภาพ
- ชอบออกกำลังกายบางชนิด อย่าง ว่ายน้ำ แอร์โรบิค วิ่ง วอลเล่ย์บอล แบท การเพาะกาย
- สมองขาดสมถภาพในด้านการเล็งระยะ เช่นการชูดบาส ยิงธนู ยิงปืน การจอดรถยนต์ในพื้นที่จำกัด
(สูญเสียพื้นที่ในสมองส่วนนี้ไปให้ความอดทนและความละเอียดอ่อน)
- ชอบเพลงคลาสสิค เพลงแจ๊ส โซล
- สันโดษ ชอบความเป็นส่วนตัว
- ขี้เหงา
- ในห้องน้ำที่บ้านเขาจะมีมากว่าสบู่ ยาสระผม ครีมนวด และยาสีฟัน
- ห้องนอนเรียบร้อยกว่าผู้ชายปกติ
- รักต้นไม้ และการปลูกต้นไม้

วิธีคิดแบบ แยกเงินเดือนเป็น 4 ส่วน‏

กำลังใจให้กับคนทำงานในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
วิธีคิดแบบ แยกเงินเดือนเป็น 4 ส่วน
ผมเห็นเพื่อนๆหลายๆคนกลุ้มใจ ไม่มีความสุขในการทำงาน ส่วนมากถ้าหางานใหม่กันได้ ก็ดีไป แต่ถ้าหาไม่ได้ จะทำอย่างไรในเมื่อเราต้องทำงานนั้นอยู่แล้ว เรามีทางเลือกสองทาง
1. คือ...ทำงานไปอย่างไม่มีความสุข
2. หาวิธีทำงานไปอย่างมีความสุข หรือ ทุกข์น้อยลง ที่ผมจะเขียนนี้ จะเป็นกรณีของแบบที่สอง เรามาเปลี่ยนวิธีคิดกันดูซะหน่อย....เผื่อว่าเราจะได้ทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น และทุกข์ก็น้อยลง
*** คิดซะว่า...ถ้าได้เงินเดือนมา ให้แยกเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน และเงินแต่ละส่วน...บริษัทเขาจ้างให้เรามาทำงานตามแบบฉบับนี้
1. เงินเดือนส่วนแรก เขาจ้างมาให้คุณรับฟังคำตำหนิ ต่อว่า ทนกับอารมณ์ของเจ้านาย
2. เงินเดือนส่วนที่สอง เขาจ้างมาให้คุณรับฟังคำตำหนิ ต่อว่า ความจุกจิก งี่เง่า ของลูกค้า
3. เงินเดือนส่วนที่สาม เขาจ้างมาให้คุณ รับฟังการติฉิน นินทา อิจฉา ริษยา งี่เง่า กักขระ ของเพื่อนร่วมงานบางคน 4. เงินส่วนที่ 4 นี้เอง ที่เป็นเงินเดือน ที่เขาจ้างมาทำงานในหน้าที่ที่คุณรับผิดชอบ
ดังนั้น ถ้าเจอปัญหาเจ้านาย ให้ลองคิดดูว่า ให้ลดเงินเดือนตัวเอง 25% แล้วเจ้านายไม่บ่นว่า น่ะเอาไหม?? ให้ลดเงินเดือนตัวเอง 25% ให้เจอลูกค้าแสนดี น่ะเอาไหม?? ให้ลดเงินเดือนตัวเอง 25% ให้เจอแต่เพื่อนร่วมงานดีๆ น่ะเอาไหม?? ลดไปลดมา ได้ทุกอย่างดีหมด แต่เงินเหลืออยู่แค่ 25% ของเงินเดือนปัจจุบัน คุณเอาไหม??
ลองใช้วิธีคิดแบบนี้นะครับ เผลอๆหลายคนอาจจะบอกว่า อย่างนี้ให้เจ้านายด่าเพิ่มสองเท่า แล้วขึ้นเงินเดือนให้ฉัน 25% ก็เอานะ'
' จิต' และ ความคิดคนเราเป็นเรื่องสำคัญนะครับ อย่าปล่อยเวลาในชีวิตให้ความคิดของคุณเป็นลบ หรือคิดแต่ในแง่ร้าย .......เพราะความคิดของคุณ ก็เหมือนฟิล์มภาพยนตร์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ คือ ภาพฉายที่ออกมาจากฟิล์มหากคิดในแง่ร้าย คุณก็จะเจอแต่แง่ร้ายๆ *** ฟิล์มเป็นอย่างไร...ภาพที่ฉายก็ออกมาก็เป็นแบบนั้น!! คุณลองคิดดูว่า ถ้าคุณไปสัมภาษณ์งาน แล้วคิดว่ายังงัยก็ไม่ได้ - แววหน้า สีหน้า ความกังวล และความมั่นใจ จะเกิดขึ้นทันที
*** เห็นมั้ยล่ะครับ...ว่าทุกอย่างเกิดจากความคิดของตัวเราเองทั้งนั้น เพราะอย่างนั้นเรามามองเรื่องแย่ๆ ร้ายๆ ให้เป็นแง่บวกกันดีกว่า ผลดี ก็คือ สุขภาพจิตของเราเองนะครับพี่น้อง!!

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ความรัก... อาจจะเกิดกลัคุณ

อย่ามองข้ามใครคนหนึ่งไป เพียงเพราะหา เหตุผลที่จะ... รักไม่ได้
ถ้าเราเกิดมาเพื่อที่จะรักใครสักคน ... คนๆนั้นจะรักเราตอบ
แต่ถ้าเราเกิดมา... เพื่อที่จะรักใครหลายๆคน
เชื่อเถอะว่าจะไม่มีใครรักเราจริงเลย ... แม้แต่คนเดียว

บางครั้ง ความรักอาจจะเดินผ่านเข้ามา... ในชีวิตเราเพียงครั้งเดียว
และไม่หวนกลับคืนมาอีก เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า ...
ความรักครั้งนี้หรือครั้งไหน จะเป็นความรักครั้งสุดท้าย

มีหลายครั้งที่เราตามหา แต่ความรัก กลับหนีไป
มีหลายครั้งที่เราไม่สนใจ แต่ความรัก ก็กลับเดินเข้ามา

อย่าถามเหตุผลเมื่อจะรักใคร ให้ถามสัมผัสจากหัวใจว่ารู้กยังไง
อย่ามองหาความรัก...ด้วยสายตา แต่ให้มองหาความรักด้วยหัวใจ
อย่าเชื่อคำว่า รัก ที่ได้ยินจากหูทั้งสองแต่ให้เชื่อคำว่ารัก ที่ดังก้องมาจาก
ความรู้สึก และส่วนลึกของหัวใจ

ความรักเป็นสิ่งที่มีค่า ... แต่มันจะไร้ค่าเมื่อมอบให้ใคร
หากวันหนึ่ง เราพบใครสักคน ที่มองเห็นคุณค่า
ความรักของเราแล้วหล่ะ ก็มอบให้เขาเถอะ
แล้วเราจะรู้ว่าความรักนั้น.... มีค่าและมีความหมายเพียงใด

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คนใจอ่อน

เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนเรา.....ที่มีแฟนที่เอาแต่ใจตัวเองมากมาย.....ชอบด่าว่าตลอดเวลา......แต่เพื่อนเราก็ไม่สามารถเลิกกับเค้าได้....เพื่อนเราพยายามบอกว่ามันสงสารเค้า...แต่ความจริงเค้าสงสารหรือยังรักกันแน่.....ไม่มีใครรูได้เลย

อยู๋กับสิ่งไหนดีกว่ากัน

อยู๋กับคนที่เรารัก หรือ ไปหาคนที่รักเรา??

คิดยังงัยกับคำถามนี้ ตอบยากไปหน่อยใช่ไหม,,ทั้ง2ทางมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
บางคนอาจจะเลือกไปหาคนที่รักเรา เพราะอยางน้อยเค้าก็ทำให้เรามีความสุข และรู้สึกมีค่าเวลาเราอยู๋กับเค้า ถึงแม้ว่าเราอาจจะเราอาจจะอยู๋กับเค้า บางทีเราอาจจะคิดถึงคนที่เรารักบ้าง แต่การที่คุณเลือกอยู๋กับคนที่รักเรามันจะทำให้เรารู้สึกดีก็เมื่อเวลาที่เราเศร้า หรือผิดหวังกับอะไรมาบางอย่าง....
แต่ถ้าเราเลือกอยู๋กับคนที่เรารักมันก็มีความสุขอีกหนึ่งทาง คือ เราจะมีความสุขมากๆเพราะเราอยู่กับคนที่เรารักและอยากอยู๋ด้วย ทำทุกอย่างให้เค้าได้โดยไม่คิดถึงสิ่งที่จะได้รับกลับมา บางครั้งเราอาจจะไม่ได้รับอะไรกลับมาเลยก็ต่าม หรือ บางทีเค้าอาจจะไม่เห็นค่าในสิ่งที่เราทำเลยก็ได้

ลองคิดและเลือกดูว่าสิ่งที่เราต้องการคือ ความสุขแบบไหนกันแน่?

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ชีวิตนี้ต้องมี choices

จากคำสอนของอาจารย์ท่านนึงที่เราเคารพว่า "ชีวิตนี้ต้องมี choices" ทำให้สามารถนำมาคิดได้หลายเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องทั่วๆไป หรือแม้กระทั่ง เรื่องความรัก แน่นอนว่าคนเราย่อมมีสิทธิ์เลือก สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ตาม choices ที่มี แต่ถ้าคนที่ไม่มี choices ล่ะ จะทำไง นั่งรอโอกาสเหรอ หวังว่าซักวันนึงจะมี choice ดีๆมาให้เลือกบ้าง แต่คนคนนั้นคงลืมไปว่า ในขณะที่ตัวเองเฝ้ารอตัวเลือกอยู่ คนอื่นเค้าก็มีตัวเลือกอื่นเหมือนกัน ถ้าตัวเองมัวแต่นั่งรอโอกาส ที่ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะผ่านมาเมื่อไหร่ ก็คงต้องจมอยู่กับความหวังลมๆแล้งๆต่อไป เฝ้าดูคนอื่นเค้าสมหวัง มีความสุข โอกาสมันมีอยู่เสมอรอบตัว ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะหามันเจอรึเปล่า ถ้าไม่เริ่มซะตั้งแต่วันนี้ แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่ สร้างตัวเลือกให้กับตัวเองซะ ทำไมต้องไปเป็นแค่ตัวเลือกนึงให้คนอื่นด้วย ในเมื่อเราเองก็มีดีพอที่จะมีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน